หากพูดถึงสตรีทเวอร์แบรนด์ระดับโลกที่กำลังมาแรงในไทย Fear of God Essentials คงเป็นชื่อที่หลายคนนึกถึงทันที ด้วยดีไซน์มินิมอลที่ตัดทอนรายละเอียดจนเหลือแค่ความลงตัว และโทนสีเรียบหรูที่เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว แต่คำถามยอดฮิตของแฟนๆ คือ
“Essentials มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?” และ “จะมิกซ์แอนด์แมทช์ยังไงให้ดูดี” บทความนี้มีคำตอบแบบละเอียด!
>>> มาดูก่อน Essentials มีโทนสีใดบ้าง
การเลือกสีในการแต่งตัวมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะสีมีผลต่อการรับรู้ทางสายตาและจิตใจของผู้คน สีสามารถสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึก และบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ได้ การเลือกสีที่เหมาะสมจะส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวม การใช้สีที่เข้ากันยังช่วยให้รูปร่างดูดีขึ้น และสร้างความน่าสนใจให้กับการแต่งกายได้อีกด้วยสำหรับ Essentials ก็มี Tone สีให้เลือก โดยจะแบ่งออกเป็น 5 โทนหลัก โดยที่นิยมที่สุดจะเป็น สีเอิร์ธโทน (Earth Tones) สีน้ำตาล เบจ ทราย และสีอิฐที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
และโทนสีอื่นๆ ประกอบไปด้วย สีนู้ด (Nude) โทนสีเนื้อและครีมที่เป็นลายเซ็นของแบรนด์ ให้ความรู้สึกสะอาดและเรียบหรู สีเทา ที่มีหลายเฉดตั้งแต่เทาอ่อนไปจนถึงเทาเข้ม เป็นสีที่มิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย สีดำ สีคลาสสิกที่มีอยู่ในทุกคอลเลกชัน ให้ลุคที่เรียบและมินิมอล สีพาสเทล ที่จะมีมา ในบางฤดูกาล มีการเพิ่มโทนสีพาสเทลอ่อนๆ เช่น สีฟ้าอ่อน สีเขียวมิ้นต์ หรือสีลาเวนเดอร์
รายละเอียดสีทุกสี
- Off-White (สีออฟไวท์) : สีขาวนวลที่ไม่สว่างจ้าเกินไป
- Sand (สีทราย) : สีน้ำตาลอมเหลืองอ่อนมาก คล้ายสีทรายชายหาด
- Stone (สีหิน) : สีเทาอมน้ำตาลอ่อน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
- Fog (สีหมอก) : สีเทาอมขาว ให้ลุคที่ดูละมุนและนุ่มนวล
- Ivory (สีงาช้าง) : สีขาวอมเหลืองอ่อนแบบงาช้าง ดูคลาสสิกและหรูหรา
- Khaki (สีกากี) : สีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน นิยมในคอลเลคชั่นฤดูร้อน
- Heather Grey (สีเทาเฮเธอร์) : สีเทาที่มีลักษณะเฉพาะจากการทอผสมเส้นใยหลายสี
- Mocha (สีมอคค่า) : สีน้ำตาลอมเทาเข้ม คล้ายกาแฟมอคค่า
- Rust (สีสนิม) : สีส้มอมน้ำตาลแดง ให้ลุคที่มีความวินเทจ
- Caramel (สีคาราเมล) : สีน้ำตาลทองอ่อน ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
- Espresso (สีเอสเพรสโซ่) : สีน้ำตาลดำเข้ม คล้ายกาแฟเอสเพรสโซ่
- Forest Green (สีเขียวป่า) : สีเขียวเข้มอมดำ
- Burgundy (สีเบอร์กันดี) : สีแดงเข้มอมม่วง นิยมในคอลเลคชั่นฤดูหนาว
- Slate (สีหินชนวน) : สีเทาอมฟ้าเข้ม ดูทันสมัยและมีมิติ
- Midnight (สีเที่ยงคืน) : สีน้ำเงินเข้มเกือบดำ แต่ยังคงความเป็นสีน้ำเงิน
- Lavender (สีลาเวนเดอร์) : สีม่วงอ่อนอมฟ้า สดใสแต่ไม่ฉูดฉาด
- Mint (สีมิ้นท์) : สีเขียวอมฟ้าอ่อน ให้ความสดชื่น
- Terracotta (สีดินเผา) : สีส้มอมน้ำตาลแดง คล้ายสีของกระถางดินเผา
- Faded Denim (สียีนส์ซีด) : สีฟ้าซีดแบบยีนส์ที่ผ่านการซักจนสีจาง
>>> เลือกเนื้อผ้าของ Essentials ให้ใส่สบาย
1. Cotton (ผ้าฝ้าย)
- เนื้อผ้าระบายอากาศดี ดูดซับเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน และมีน้ำหนักเบา ไม่อับชื้น เคลื่อนไหวสะดวก
2. Terry Cloth (ผ้าเทอร์รี่)
- เนื้อผ้าที่มีความนุ่ม แต่บางและระบายอากาศได้ดีกว่า Fleece สวมใส่สบายแม้ในอากาศร้อน เพราะด้านในมีการถักแบบลูป ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี
3. Mesh (ผ้าตาข่าย)
- ในคอลเลคชั่นพิเศษบางรุ่น มีการใช้ผ้า Mesh ที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม มีการผสมผ้า Mesh ที่บริเวณกระเป๋า ช่วยเพิ่มการระบายอากาศ
4. Lightweight Cotton-Blend (ผ้าฝ้ายผสมน้ำหนักเบา)
- ผ้าฝ้ายผสมที่บางเบา พลิ้วไหว เหมาะกับการสวมทับเสื้อยืด หรือใส่เดี่ยวๆ เนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไป เหมาะกับการสวมใส่ในห้องแอร์
>>> แนะนำ Mix & Match สีของ Fear of God Essentials
1. จับคู่โทนสีเดียวกัน (Monochromatic)
การจับคู่ชุดแบบโทนสีเดียวกันเป็นหนึ่งในสไตล์ที่ Fear of God Essentials โดดเด่นที่สุด และแต่งง่ายที่สุดเข้ากับทุกโอกาส
- ชุดสีเทาทั้งตัว : เสื้อยืด Essentials สีเทาอ่อน + กางเกงจ๊อกเกอร์สีเทาเข้ม
- ชุดสีครีมทั้งตัว : เสื้อฮู้ดสีครีม + กางเกงขาสั้นสีครีม
- ชุดสีดำทั้งตัว : เสื้อโอเวอร์ไซส์สีดำ + กางเกงทรงหลวมสีดำ
- เทคนิค : ใช้เฉดสีเดียวกันแต่ต่างความเข้ม-อ่อน เพื่อสร้างมิติให้กับชุด
2. จับคู่สีโทนเอิร์ธโทน (Earth Tones)
สีโทนเอิร์ธโทนสามารถเข้ากับสีผิวได้ทุกสีผิว ใส่แล้วดูเรียบ เข้ากับยุคนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเราสามารถการผสมผสานสีโทนธรรมชาติเข้าด้วยกันได้ดังนี้
- น้ำตาล + เบจ : เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาล + กางเกงสีเบจ
- โอลีฟ + แทน : เสื้อยืดสีโอลีฟ + กางเกงสีแทน
- เบจ + ครีม : เสื้อกันหนาวสีเบจ + กางเกงสีครีม
3. จับคู่สีขาวดำ (Black & White)
การจับคู่สีขาวดำ เป็นสีคลาสสิคที่สุดและจับคู่ง่ายที่สุด แต่งง่ายที่สุด เราสามารถใส่ทั้งผสมสีขาว และดำ แต่หากจากจะเป็นสีเดียวกัน ก็แนะนำให้เอาเครื่องประดับอื่นๆ มาใส่ผสมเพื่อตัดกับสีเดียวกันทั้งชุด
- ขาว + ดำ : เสื้อยืดสีขาว + กางเกงสีดำ
- ดำ + ขาว : เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ + กางเกงสีขาว
- All Black : เสื้อดำ + กางเกงดำ ต้องสีดำเดียวกันและใช้เครื่องประดับอื่นๆ สีเงินเป็นลูกเล่น
- เพิ่มเทา : เสื้อยืดสีเทา + กางเกงสีดำ + รองเท้าสีขาว
- เทคนิค : เพิ่มความน่าสนใจด้วยการเลือกเล่นเลเยอร์หรือเพิ่มสีเทาเป็นสีที่สาม
4. จับคู่สีนิวทรัล (Neutral Combinations)
- เทา + เบจ : เสื้อยืดสีเทา + กางเกงสีเบจ
- น้ำตาล + ชาร์โคล : เสื้อสเวตเชิร์ตสีน้ำตาล + กางเกงสีชาร์โคล
- ครีม + โอลีฟ : เสื้อฮู้ดสีครีม + กางเกงสีโอลีฟ
- เทคนิค : เลือกสีที่มีความอ่อน-เข้มต่างกันพอสมควรเพื่อสร้างคอนทราสต์
5. จับคู่สี (Color Pairing)
แม้ FOG Essentials จะเน้นโทนสีเรียบง่าย แต่สามารถเล่นกับการสลับสีได้ แต่ขออย่าให้รกจนเกินไป
- เทาเข้ม + ครีม : เสื้อยืดสีเทาเข้ม + กางเกงสีครีม
- ดำ + แทน : เสื้อฮู้ดสีดำ + กางเกงสีแทน
- กรมท่า + เบจ : เสื้อกันหนาวสีกรมท่า + กางเกงสีเบจ
- เทคนิค : เลือกใช้สีที่ตัดกันแต่ยังอยู่ในโทนที่เข้ากันได้ เพื่อให้ดูมีสไตล์โดยไม่ฉูดฉาดเกินไป
>>> แนะนำ Mix & Match ทรงผ้าของ Fear of God Essentials
1. การจับคู่เสื้อยืด Essentials
- เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ + กางเกงทรงหลวม : สร้างลุคสตรีทแวร์แบบสบายๆ
- เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ + กางเกงขาสั้น : ลุคซัมเมอร์แบบสบายๆ
- เสื้อยืดปกติ + กางเกงสแล็ค : ลุคกึ่งทางการที่ดูสบาย
- เทคนิค : สามารถใส่เสื้อยืดทับกันเป็นเลเยอร์ได้ โดยให้ชายเสื้อยาวกว่าโผล่ออกมา
2. การจับคู่เสื้อฮู้ด/สเวตเชิร์ต Essentials
- ฮู้ด + กางเกงจ๊อกเกอร์ : ลุคแบบชุดเซ็ทที่ดูเข้ากัน
- ฮู้ด + กางเกงคาร์โก้ : สร้างลุคสตรีทแวร์ที่มีรายละเอียดมากขึ้น
- สเวตเชิร์ต + กางเกงขาตรง : ลุคที่ดูสบายแต่มีสไตล์
- เทคนิค : สามารถใส่เสื้อยืดข้างในและปล่อยให้เห็นชายเสื้อเพื่อสร้างเลเยอร์
3. การจับคู่กางเกง Essentials
- กางเกงจ๊อกเกอร์ + เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ : ลุคสบายๆ แบบ Athleisure
- กางเกงขาตรง + เสื้อสเวตเชิร์ต : ลุคที่ดูมีโครงสร้างมากขึ้น
- กางเกงขาสั้น + เสื้อเชิ้ตทับด้วยเสื้อยืด : ลุคซัมเมอร์ที่มีเลเยอร์
- เทคนิค : เลือกทรงกางเกงให้สมดุลกับทรงเสื้อ ถ้าเสื้อหลวมควรเลือกกางเกงที่มีโครงสร้างชัดเจน
4. การจับคู่ชุดเซ็ท Essentials
- ชุดเซ็ทฮู้ด + กางเกงจ๊อกเกอร์ : ลุคสปอร์ตแบบสบายๆ
- ชุดเซ็ทเสื้อสเวต + กางเกงขาตรง : ลุคที่ดูมีโครงสร้างมากขึ้น
- ชุดเซ็ทเสื้อยืด + กางเกงขาสั้น : ลุคซัมเมอร์แบบมินิมอล
- เทคนิค : เพิ่มความน่าสนใจด้วยการใส่รองเท้าหรืออุปกรณ์เสริมที่มีสีต่างจากชุด
5. การเล่นกับสัดส่วน (Proportions)
- เสื้อทรงใหญ่ + กางเกงทรงหลวม : ลุคสตรีทแวร์แบบสมบูรณ์
- เสื้อทรงใหญ่ + กางเกงทรงฟิต : สร้างความสมดุลให้กับรูปร่าง
- เสื้อทรงพอดี + กางเกงทรงหลวม : อีกวิธีในการสร้างความสมดุล
- เทคนิค : เล่นกับความยาวของเสื้อและความกว้างของกางเกงให้สมดุลกัน
6. การซ้อนทับ (Layering)
- เสื้อยืด + เสื้อเชิ้ต + แจ็คเก็ต : เสื้อยืด Essentials สีเทาอ่อน + กางเกงจ๊อกเกอร์สีเทาเข้ม
- เสื้อยืดแขนยาว + เสื้อยืดแขนสั้นทับ : เสื้อฮู้ดสีครีม + กางเกงขาสั้นสีครีม
- เทคนิค : เล่นกับความยาวและสีที่แตกต่างในแต่ละเลเยอร์
7. การเล่นกับความยาว (Length Play)
- เสื้อยืดยาว + กางเกงขาสั้น : สร้างลุคที่มีสัดส่วนน่าสนใจ
- เสื้อครอปสั้น + กางเกงเอวสูง : สร้างความสมดุลให้กับสัดส่วน
- เสื้อฮู้ดยาว + กางเกงขายาว : ลุคที่ดูมีมิติด้วยความยาวที่ซ้อนทับกัน
- เทคนิค : ทดลองกับความยาวของเสื้อที่แตกต่างกันเพื่อสร้างรูปทรงที่น่าสนใจ
"
ก่อนไปวันนี้ขอฝากเอาไว้ข้อความสุดท้าย อยากให้เราคิดว่า จริงๆ แล้วการแต่งตัวเป็นความอิสระของผู้ใส่ ไม่มีใครมาจำกัดอะไรเราได้ ไม่มีกฎตายตัวว่าคุณต้องใส่สีอะไรหรือจับคู่ชุดแบบใด การแต่งตัวคือการสื่อสารความเป็นเราออกมา ถ้าหากคุณอยากเริ่มต้นง่ายๆ ควรเริ่มจากการซื้อไอเท็มพื้นฐานอย่างเสื้อยืด เสื้อ Hoodie หรือกางเกงในสีเบสิก สีที่แมตช์ง่ายก่อน จากนั้นค่อยๆ เพิ่มไอเท็มที่มีความโดดเด่นมากขึ้น เมื่อคุณเข้าใจสไตล์ของตัวเองและรู้จักการผสมผสานไอเท็มต่างๆ เข้าด้วยกัน และปล่อยให้สไตล์ของคุณค่อยๆ เติบโตผ่านการทดลอง เดี๋ยววันนึงคุณก็เซียนเองเชื่อผม!
